ปาล์มน้ำมัน
ปาล์มน้ำมัน (Elaeis guineensis: Oil palm) เป็นพืชน้ำมันที่มีความต้องการของตลาดสูงและต่อเนื่อง
การปลูกปาล์มน้ำมัน เริ่มจากการปรับพื้นที่ให้สะอาด เตรียมขุดหลุมขนาด 60 x 60
x 60 เซนติเมตรให้ระยะห่างระหว่างหลุม 9 x 9 เมตร เมื่อปลูกเสร็จควรให้น้ำทันที ต้นปาล์มที่นำมาปลูก
ควรมีอายุ 1 ปีขึ้นไป
จะเป็นการนำมาปลูกที่ดีถ้าปลูกไปแล้วต้นปาล์มสูงชะลูดหรือโตเร็วกว่าปกติ ต้นปาล์มน้ำมันต้นนั้นมักจะป็นตัวผู้จะพบประมาณ
2-3% ควรรีบนำออกไปแล้วปลูกต้นใหม่ทดแทน เพื่อให้ต้นใหม่ไล่ทันต้นเก่าที่ได้ปลูกไปแล้ว
ปุ๋ยเคมีสำหรับปาล์มน้ำมัน จะเน้นสูตร 14-10-30,
13-7-35 และ 13-13-21 เพื่อเน้นบำรุงดอกและผลปาล์ม
ใส่ในอัตรา 0.5-2 กก./ต้น/ครั้ง
ตามความเหมาะสมขึ้นอยู่กับอายุของต้นปาล์มน้ำมัน โดยปกติจะใส่ 2-4 ครั้ง/ต้น/ปี
การใช้ปุ๋ยปุ๋ยในปาล์มน้ำมัน
ควรใช้ปุ๋ยเคมีควบคู่กับปุ๋ยอินทรีย์หรือสารปรับปรุงดิน
เพราะในปุ๋ยเคมีมีธาตุอาหารมาก แต่จะทำให้โครงสร้างดินเสีย
จึงควรปรับโครงสร้างดินด้วยปุ๋ยอินทรีย์หรือสาร ปรับสภาพดินดังกล่าว
โดยอาจใส่ร่วมกับปุ๋ยเคมีสูตรต่างๆ ในอัตราส่วน 3:1 ก็จะทำให้ลดต้นทุนการใส่ปุ๋ยเคมี
และช่วยบำรุงให้มีความอุดมสมบูรณ์อย่างยั่งยืน
ช่วงเวลาที่เหมาะสมควรใส่ปุ๋ย ให้ปุ๋ยช่วงฤดูฝน
สามารถแบ่งให้เป็น 3 ช่วงคือ ต้นฝน,กลางฝน และปลายฝน
ปาล์มน้ำมันต้องการธาตุอาหารหลักๆ คือ
เน้นธาตุอาหาร ไนโตรเจน, ฟอสฟอรัส, โพแทสเซียม, แมกนีเซียมและ โบรอน
โดยสามารถใส่ปุ๋ยอินทรีย์ หรือสารปรับสภาพดินในระหว่างเตรียมดิน
หรือใส่อย่างสม่ำเสมอตั้งแต่ หลังเพาะปลูกครบ 3 เดือน ใส่ทุกเดือน จนครบ 1 ปี
ความต้องการธาตุอาหารของปาล์มน้ำมัน
อาการขาดธาตุ
ไนโตรเจน - ใบล่างเหลืองซีด
ฟอสฟอรัส - ลำต้นเป็นปิระมิด
โพแทสเซียม - ใบล่างเป็ดจุดสีส้ม
แมกนีเซียม - ใบย่อยปลยๆทางเป็นสีเหลือง โคนทางเป็นสีเขียว
โบรอน - ปลายใบหงิกเป็นตะขอ
ความสำคัญของธาตุ
ไนโตรเจน - ช่วยเดินสร้างความเจริญเติบโต ต้นใหญ่ โตเร็ว แต่ถ้าได้รับมากเกินไปต้นจะอ่นแอ มีความต้านทานโรคน้อย
ฟอสฟอรัส - ช่วยกระตุ้นการแตกรากฝอย สามารถดูดปุ๋ยได้ดีขึ้น
โพแทสเซียส - ช่วยเพิ่มผลผลิต ให้ผลผลิตและเปอร์เซ็นน้ำมันสูง ทนแล้งได้ดี
แมกนีเซียม - ช่วยในการสังเคราะห์แสงมีผลกับกระบวนการสร้างอาหารของปาล์ม
โบรอน - กระตุ้นให้เกิดตาดอกและตายอด ทำให้การผสมเกสรสมบูรณ์
ความสำคัญของธาตุ
ไนโตรเจน - ช่วยเดินสร้างความเจริญเติบโต ต้นใหญ่ โตเร็ว แต่ถ้าได้รับมากเกินไปต้นจะอ่นแอ มีความต้านทานโรคน้อย
ฟอสฟอรัส - ช่วยกระตุ้นการแตกรากฝอย สามารถดูดปุ๋ยได้ดีขึ้น
โพแทสเซียส - ช่วยเพิ่มผลผลิต ให้ผลผลิตและเปอร์เซ็นน้ำมันสูง ทนแล้งได้ดี
แมกนีเซียม - ช่วยในการสังเคราะห์แสงมีผลกับกระบวนการสร้างอาหารของปาล์ม
โบรอน - กระตุ้นให้เกิดตาดอกและตายอด ทำให้การผสมเกสรสมบูรณ์